วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ลูทีน ซีแซนทีน ในผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม แอลซีวิท 3x

แนะนำผลิตภัณฑ์วิตามินอาหารเสริม แอลซีวิท 3 เอ็กซ์ (LZVIT 3x) บำรุงดวงตา ประกอบด้วย ลูทีน ซีแซนทีน วิตามินอี แอสต้าแซนทีน สนใจติดต่อ คุณหมวย (สมใจ) โทร.095-2491961 สารลูทีนและซีแซนทีนมีงานวิจัยรองรับถึงการมีคุณประโยชน์เกี่ยวกับดวงตา เพราะเป็นวิตามินเอที่ไม่มีผลข้างเคียงเมื่อทานจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยกำหนดปริมาณสารว่าควรทานปริมาณสูงสุดเท่าไหร่ และปริมาณที่จะไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย ถ้าจะทานวิตามินเสริม ควรทานแล้วหยุดสัก1- 2 อาทิตย์ เพื่อปรับสมดุลของสารต่างๆ ในร่างกาย https://fb.watch/kXyrInZ4eV/

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ผลิตภัณฑ์บำรุงสายตา แอลซีวิท 3 เอ็กซ์ สนใจ สอบถามเพิ่มเติมที่คุณหมวย (สมใจ) โทร. 095-2491961 รหัสนักธุรกิจกิฟฟารีน 111074338 apsules)

สารอาหารเพื่อดวงตา แอลซีวิต 3 เอกซ์ กิฟฟารีน ประกอบด้วย ลูทีนมากถึง 10 มก. พร้อมซีแซนทีน แอสตาแซนธิน วิตามินเอ วิตามินอี และสารสกัดจากบิลเบอร์รี่ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา และช่วยต้านอนุมูลอิสระให้แก่ดวงตา จึงช่วยลดโอกาสการเสื่อมของเลนส์ตา และจอประสาทตาได้ เหมาะกับผู้ที่มีการใช้ชีวิตติดจอโทรศัพท์ หรือทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ผู้ที่ใช้สายตามากๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น อ่านหนังสือ หรือขับรถนาน เด็กวัยเรียน หรือ วัยเจริญเติบโต ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจก โรคจุดรับภาพเสื่อม และ ผู้ที่ต้องการดูแลปกป้องดวงตา สารสำคัญที่ช่วยในการบำรุงสายตาใน แอลซีวิต 3 เอกซ์ กิฟฟารีน: ลูทีน และซีแซนทีน: สารแคโรทีนอยด์ที่พบที่จุดรับภาพของตา ช่วยปกป้องเซลล์จอประสาทตา ช่วยกรองแสงสีฟ้า ลดการเกิดโรคต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม ช่วยให้มองเห็นภาพชัดขึ้น แอสตาแซนธิน: สารสกัดจากสาหร่ายสีแดงสายพันธุ์ Haematococcus Pluvialis เป็นสารแคโรทีนนอยด์ที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ต้องได้จากการรับประทานเข้าไป ทำให้มองภาพได้ชัดขึ้น ลดความเมื่อยล้าของดวงตา เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังดวงตา สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ (Anthocyanin) ช่วยให้จอตาเป็นปกติ ชะลอการขุ่นมัวของเลนส์ตา ทำให้เส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงดวงตาแข็งแรง ช่วยการมองเห็นในที่มืด ลดอาการล้าของดวงตา วิตามินเอ คงสภาพปกติของการมองเห็น คงสภาพปกติของเยื่อบุต่างๆ ช่วยในการมองเห็นในที่มืด วิตามินอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการพัฒนาของเซลล์ประสาท

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เหตุผลที่ต้องใช้ครีมกันแดด ที่ควรรู้ :

 – ปรับผิวให้ขาวขึ้น การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอนอกจากจะไม่ทำให้ผิวคล้ำขึ้น ยังช่วยปรับให้ผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกต่างหาก

– ป้องกันปัญหาผิว จาก กระแดด ฝ้า จุดด่างดำ และสิว ปัญหาผิวเหล่านี้แหละที่เกิดขึ้นเพราะผิวไม่ได้ถูกปกป้องด้วยครีมกันแดดนั่นเอง

– ผิวคงความอ่อนเยาว์ได้นาน ควรทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสียูวี เพราะแสงแดด จะทำให้ผิวเหี่ยว ความยืดหยุ่นลดลง  อาจมีริ้วรอยตามมา

– ป้องกันมะเร็งผิวหนัง ควรหาครีมกันแดดคุณภาพดี และมี SPF สูงๆมาทา เพราะแค่ปล่อยให้ผิวเปล่า ๆ ของเราโดนแดดจัด เพียงไม่กี่ครั้ง ก็เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังได้ รู้แบบนี้แล้วต้องอย่าลืมทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน

– ผิวคล้ำเสียสะสม ถ้าปล่อยให้ผิวเจอกับแดดแบบเต็ม ๆ จะทำให้ผิวคล้ำเสียสะสม ควรทากันแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำเตรียมไว้ รับรองว่านอกจากผิวจะไม่คล้ำเสียแล้ว ยังช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีเปล่งประกายกว่าใคร

– ผิวไหม้แสบแดง เวลาไปเที่ยวทะเลหรือเล่นกีฬาแล้วโดนแดดนาน ๆ ถ้าไม่ได้ทาครีมกันแดดป้องกันเลย นอกจากผิวจะดำคล้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ยังจะเกิดอาการผิวไหม้แสบแดง เผลอ ๆ ยังลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ ด้วย ฉะนั้นเวลาไปออกแดดจัดเป็นเวลานาน ๆ ต้องทาครีมกันแดดทุกครั้งและต้องทาซ้ำ ๆ ทุก 2 ชั่วโมง

– ได้ผิวสุขภาพดี ถ้าไม่อยากให้คอลลาเจนและความยืดหยุ่นในผิวหายไป ควรหาครีมกันแดดดี ๆ SPFสูงๆ มาทาเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็จะช่วยล็อกให้คอลลาเจนและความยืดหยุ่นในผิวยังอยู่ และยังได้ผิวสุขภาพดีไปเป็นของแถมด้วย


 

เรื่องของสิวๆๆ แบบ happy ๆๆ

GIFFARINE IDOL STAY-C 50 SET 

กิฟฟารีนไอดอล สเตย์-ซี50 ตอบโจทย์ของปัญหาสิว
ก้าวสู่วัยรุ่นอย่างมั่นใจ ด้วยการเตรียมพร้อม
รับมือความเปลี่ยนแปลงแห่งวัย
เลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว
ให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส ไร้ความมัน
ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผสม Stay-C 50 วิตามินซีที่มีความคงตัวสูง
ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ช่วยลดความมัน
ขจัดต้นเหตุของการเกิดสิวอย่างครบขั้นตอน

เซ็ทนี้มี 4 ชิ้น ประกอบด้วย .

1. กิฟฟารีน ไอดอล สเตย์-ซี 50 แอคเน่ แคร์ โฟม Giffarine Idol Stay-C 50 Acne Care Foam
โฟมล้างหน้า สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมัน หรือมีสิว มีส่วนผสมของ Stay-C 50 (วิตามินซี ที่มีความคงตัวสูง) Triclosan และ Enantia Chlorantha Extract ช่วยชำระล้างความมันบนผิวหน้า พร้อมยับยั้งแบคทีเรีย บรรเทาอาการอักเสบของสิว ขจัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ ทำให้หน้าสะอาด สดใส ไร้ความมัน
ส่วนประกอบสำคัญ : Potassium Laurate, Potassium Myristate, Sodium Ascorbyl Phosphate, Triclosan, Enantia Chlorantha Extract

วิธีใช้ : บีบโฟมลงบนฝ่ามือ ผสมน้ำ ถูให้เกิดฟอง ลูบไล้ให้ทั่วใบหน้าที่เปียก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ปริมาณสุทธิ 50 กรัม
ราคา160 บาท

2. กิฟฟารีน ไอดอล สเตย์-ซี 50 แอคเน่ แคร์ โทนเนอร์ Giffarine Idol Stay-C 50 Acne Care Toner
โลชั่นเช็ดหน้าเพื่อการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก สูตรปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอมจึงอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้ระคายเคือง มีส่วนผสม ของ Stay–C 50 (วิตามินซีที่มีความคงตัวสูง) และ Enantia Chlorantha Extract ช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำ ให้ดูกระจ่างใสขึ้น และลดความมันส่วนเกิน พร้อมกระชับรูขุมขน ลดการอุดตันของสิว ทำให้ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้นแลดูสดใส เปล่งปลั่ง
ส่วนประกอบสำคัญ : Sodium Ascorbyl Phosphate, Prpoplyene Glycol, Enantia Chlorantha Extract

วิธีใช้ : หลังการล้างหน้า หยดโลชั่นลงบนสำลี แล้วเช็ดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าและลำคอโดยไม่ต้องล้างออก

ปริมาณสุทธิ 80 มล.
ราคา200 บาท

3. กิฟฟารีน ไอดอล สเตย์-ซี 50 สปอท แอคเน่ แคร์เจล Giffarine Idol Stay C-50 Spot Acne Care Gel
กิฟฟารีน ไอดอล สเตย์-ซี 50 สปอท แอคเน่ แคร์ เจล ผลิตภัณฑ์แต้มสิว มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิดทำงานร่วมกันคือ Stay-C 50 (วิตามินซีที่มีความคงตัวสูง) สารสกัดจากยีสต์ (Betaglucan) , สารสกัดจากดอกคาโมมายล์, Tea Tree Oil และ Lavender Oil ช่วยในการยับยั้งแบคทีเรีย และ ลดการอักเสบ ช่วยให้สิวแห้งเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว
ส่วนประกอบสำคัญ : Sodium Ascorbyl Phosphate , Sodium Carboxymethyl Betaglucan , Melaleuca Alternifolia (Tea Tree) Leaf Oil, Lavandula Angustifolia (Lavender) Oil, Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower Extract, Allantoin

วิธีใช้ : แต้มบาง ๆ บริเวณหัวสิว

ปริมาณสุทธิ 5 กรัม
ราคา160 บาท

4. กิฟฟารีน ไอดอล สเตย์-ซี 50 สปอท แอคเน่ แคร์ ไวท์เทนนิ่ง ครีม Giffarine Idol Stay-C 50 Acne Care Whitening Cream
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพื่อลดเลือนรอยสิว ประกอบด้วย Stay-C 50 วิตามินซีที่มีความคงตัวสูง, สารสกัดจากยีสต์ (Betaglucan) ช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูสภาพผิว และ Allantoin ผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวขาว กระจ่างใส แลดูมีสุขภาพดี
ส่วนประกอบสำคัญ : Sodium Ascorbyl Phosphate,Tocopheryl Acetate, Allantoin, Sodium Carboxymethyl , Betaglucan

วิธีใช้ : หลังจากทำความสะอาดผิวหน้า ทาเนื้อครีมบาง ๆ ให้ทั่วบริเวณที่เป็นสิว เป็นประจำทุกเช้า-เย็น

ปริมาณสุทธิ 5 กรัม
ราคา160 บาท 

สนใจสั่งซื้อที่โทร.095-2491961 Line id:Somjai52
สมัครสมาชิกเพื่อรับส่วนลด และเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ที่ www.anattara.com/?=16127
หรือที่เฟสบุ๊กเพจhttps://www.facebook.com/Somjai147


ครีมกันแดด กิฟฟารีน กลามอรัส บูเต้ ยูวี ครีม เอสพีเอฟ 50 พีเอ+++(เหตุผลที่ต้องทาครีมกันแดดทุกวัน)

ครีมกันแดด กิฟฟารีน กลามอรัส บูเต้ ยูวี ครีม เอสพีเอฟ 50 พีเอ+++ป้องกันรังสี UVA และ UVB



ครีมป้องกันแสงแดดเนื้อบางเบา สบายผิว ไร้คราบขาวและความเหนอะหนะ ปกป้องผิวเป็นพิเศษยาวนานตลอดวัน พร้อมผสานการทำงานของสารบำรุงล้ำค่า เสมือนเสริมปราการปกป้องผิวทั้งภายนอกและจากภายใน

ครีมกันแดด เอสพีเอฟ 50 พีเอ+++

1. ปกป้องครบถ้วน : ด้วยการผสานประสิทธิภาพของ 2 สารป้องกันแสงแดด Parsol MCX และ Parsol 1789 เพื่อช่วยปกป้องผิวทั้งจาก UVA ต้นเหตุของริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ และ UVB ตัวการของผิวไหม้แดง พร้อมมอบประสิทธิภาพด้วยค่า SPF 50 เพื่อป้องกัน UVB จากแสงแดดยาวนานถึง 50 เท่า และ PA+++ ซึ่งเป็นค่าสูงสุดในการป้องกัน UVA ของวิทยาการปัจจุบัน

2. ฟื้นฟูความเปล่งปลั่ง กระจ่างใส : จากคุณค่าของ Radience CR นวัตกรรมใหม่จาก DSM สวิตเซอร์แลนด์

3. เติมความแข็งแรงจากภายใน : ด้วยการส่งมอบความชุ่มชื่นคืนสุขภาพดีให้กับเซลล์ผิวจากคุณค่าของสารสกัดจากแพลงก์ตอนทะเล (GP4G) Vitamin E และ Vitamin B5

Radiance CR : คืออะไร

Radiance CR นวัตกรรมใหม่จาก DSM สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทวีพลังการปรนนิบัติผิวของ Vitamin C ด้วยการนำมาผสานการทำงานกับ Coenzyme R ( Vitamin H หรือ Biotin ) เพื่อมอบความสว่างใส เติมเต็มความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระและคงความอ่อยวัยให้กับผิว

มีงานวิจัยทั้งยุโยป และเมืองไทย แล้วว่า ช่วยปรับสภาพผิวให้นุ่มนวล เรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้นใน 8 สัปดาห์

-ทดสอบในกลุ่มตัวอย่างชาวเยอรมัน โดย  DSM สวิตเซอร์แลนด์

-ทดสอบในกลุ่มตัวอย่างชาวไทย 100 ราย โดยบริษัทกิฟฟารีนร่วมกับ DSM สวิตเซอร์แลนด์ 

เหตุผลที่ต้องใช้ครีมกันแดด ที่ควรรู้ :

 ปรับผิวให้ขาวขึ้น การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอนอกจากจะไม่ทำให้ผิวคล้ำขึ้น ยังช่วยปรับให้ผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกต่างหาก

 ป้องกันปัญหาผิว จาก กระแดด ฝ้า จุดด่างดำ และสิว ปัญหาผิวเหล่านี้แหละที่เกิดขึ้นเพราะผิวไม่ได้ถูกปกป้องด้วยครีมกันแดดนั่นเอง

 ผิวคงความอ่อนเยาว์ได้นาน ควรทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสียูวี เพราะแสงแดด จะทำให้ผิวเหี่ยว ความยืดหยุ่นลดลง  อาจมีริ้วรอยตามมา

 ป้องกันมะเร็งผิวหนัง ควรหาครีมกันแดดคุณภาพดี และมี SPF สูงๆมาทา เพราะแค่ปล่อยให้ผิวเปล่า ๆ ของเราโดนแดดจัด เพียงไม่กี่ครั้ง ก็เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังได้ รู้แบบนี้แล้วต้องอย่าลืมทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน

 ผิวคล้ำเสียสะสม ถ้าปล่อยให้ผิวเจอกับแดดแบบเต็ม ๆ จะทำให้ผิวคล้ำเสียสะสม ควรทากันแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำเตรียมไว้ รับรองว่านอกจากผิวจะไม่คล้ำเสียแล้ว ยังช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีเปล่งประกายกว่าใคร

 ผิวไหม้แสบแดง เวลาไปเที่ยวทะเลหรือเล่นกีฬาแล้วโดนแดดนาน ๆ ถ้าไม่ได้ทาครีมกันแดดป้องกันเลย นอกจากผิวจะดำคล้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ยังจะเกิดอาการผิวไหม้แสบแดง เผลอ ๆ ยังลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ ด้วย ฉะนั้นเวลาไปออกแดดจัดเป็นเวลานาน ๆ ต้องทาครีมกันแดดทุกครั้งและต้องทาซ้ำ ๆ ทุก 2 ชั่วโมง

 ได้ผิวสุขภาพดี ถ้าไม่อยากให้คอลลาเจนและความยืดหยุ่นในผิวหายไป ควรหาครีมกันแดดดี ๆ SPFสูงๆ มาทาเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็จะช่วยล็อกให้คอลลาเจนและความยืดหยุ่นในผิวยังอยู่ และยังได้ผิวสุขภาพดีไปเป็นของแถมด้วย

 


วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ครีมทาฝ้า กิฟฟารีน แก้ฝ้า หน้าขาว กระจ่างใส

แน่นอนปัญหาเรื่องฝ้าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิงเรา ฝ้า เป็นความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง เห็นเป็นปื้นสีน้ำตาลหรือเทา เกิดที่แก้มหน้าผาก จมูกและคาง มักจะเป็นเท่า ๆ กันทั้ง 2 ข้าง ผิวหนังบริเวณที่เป็น จะเป็นปกติไม่มีการอักเสบ ไม่มีขุย มักพบในผู้หญิง จากลักษณะการกระจายของฝ้าแบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ

centrofacial pattern เป็นรอยฝ้าบริเวณแก้ม หน้าผาก หนวด จมูก และคาง

malar pattern เป็นรอยฝ้าที่แก้มและจมูก

mandibular pattern เป็นรอยฝ้าบริเวณด้านข้างของคาง ขากรรไกรล่าง

ปกติเซลล์สร้างเม็ดสีจะอยู่ในผิวชั้นหนัง กำพร้าเท่านั้น แต่ในตัวผิวชั้นหนังกำพร้าเอง ก็ยังมีชั้นย่อยอีกหลายชั้น เมลานินอาจจะอยู่ชั้นใดชั้นหนึ่งที่ลึก ตื้น ไม่เท่ากันในแต่ละคน อาจจะอยู่กระจุก กระจาย แตกต่างกันไป ทำให้ฝ้าแต่ละคนเข้มไม่เท่ากัน เราเรียกฝ้าที่เกิดจากการเพิ่มต้วของเมลานินในชั้นหนังกำพร้านี้ว่า ฝ้าตื้น (epidermal type) หรือ Epidermal Melasma  ฝ้าชนิดนี้จะตอบสนองดีต่อ whitening หรือการทำไอออนโตผลักไวเทนนิ่งหรือตัวยาอื่นๆเข้าผิวหนัง

ฝ้า อีกประเภทที่ควรทราบ ฝ้าลึก (dermal type) หรือ Dermal melasma  เป็นฝ้าที่เกิดขึ้นจากการมีเซลล์เม็ดสีที่ชื่อ “melanophage” อยู่ในผิวชั้นหนังแท้ (ชั้น dermis) รอบๆหลอดเลือด ฝ้าชนิดนี้รักษายาก ไม่ตอบสนองต่อไวเทนนิ่งที่ทาภายนอก หรือแม้แต่การใช้หัตถการทางการแพทย์ก็มักจะได้ผลไม่ดีนัก ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้ครีมรักษาฝ้า ยังไงก็ไม่ได้ผล อาจจะเป็นไปได้ว่า ฝ้าที่เป็นอยู่ เป็นฝ้าลึก

บางคนอาจจะเป็นผสมทั้งฝ้าลึกและฝ้าตื้น (mixed type) พอใช้ครีม เซรั่มรักษาฝ้า ก็จะดูตอบสนองดีในช่วงแรกๆ เพราะฝ้าตื้นได้รับการรักษา แต่ฝ้าลึกมันลึกเกินกว่าครีมทาภายนอกจะซึมเข้าไปถึง

สาเหตุของฝ้า แบ่งเป็น 3 ปัจจัย

1. แสงแดด ที่สำคัญคือรังสี Ultraviolet ทำให้เกิด peroxidation ของ lipids ใน cellular membranes เกิด free radicals ซึ่งไปกระตุ้น melanocytes ให้สร้าง melanin มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ultraviolet-B (290-320 nm) หรือ ultraviolet-A และ visible radiation (320-700 nm) สามารถกระตุ้น melanocytes ได้ทั้งสิ้น แต่ UVB มีพลังงานสูงจึงทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายสุด

2. ฮอร์โมนเอสโตรเจน เมื่อ ไรก็ตามที่ระดับฮอร์โมนนี้ในร่างกายขึ้นสูง ก็จะสามารถกระตุ้นเซลล์สร้างสีเมลาโนไซท์ให้เกิดฝ้าขึ้น ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีมากในเพศหญิง และจะเพิ่มขึ้นสูงในระยะตั้งครรภ์ และขึ้นลงในวัยหมดประจำเดือน หรือคนที่ระบบประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ เราจึงพบว่าฝ้ามักพบในคนที่ตั้งครรภ์หรือช่วงอายุสี่-ห้าสิบปี หรือคนที่ประจำเดือนผิดปกติ นอกจากนี้ยังพบฮอร์โมนนี้ ในยาคุมกำเนิดทั้งหลายทุกยี่ห้อ เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นกลไกสำคัญในการคุมกำเนิด จะสังเกตได้ว่าคนที่ทานยาคุมกำเนิดตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป มักมีปัญหาเรื่องฝ้า บางคนเพียง 1 – 2 แผง ร่วมกับการตากแดดมากก็มีฝ้าขึ้นแล้ว เข้าใจว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสมดุลย์ของฮอร์โมน ซึ่งยังไม่ทราบว่าตัวใด อาจจะเป็น estrogen หรือ progesterone ที่มีอยู่ในยาคุมกำเนิด

3. พันธุกรรม เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีรายงานว่าคนในครอบครัวเดียวกันจะเป็นฝ้าเหมือนกันได้ถึง 30 – 50% และยังพบฝ้าได้บ่อยในคน Hipanics และ Asian อย่างไรก็ตาม อุบัติการณ์ดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากพันธุกรรม หรือเป็นผลมาจากสภาพแวดล้อม แสงแดด ยังไม่สามารถยืนยันได้

ขอขอบคุณที่มา: https://pantip.com

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ AHA ที่มีในผลิตภัณฑ์ดูแลสิว ฝ้า กระ


 AHA คืออะไร

            AHA หรือ กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) คือ สารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น กรดซีตริก (Citric Acid) จากผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว กรดทาร์ทาริก (Tartaric Acid) จากองุ่น กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) จากอ้อย กรดมาลิก (Malic Acid) จากแอปเปิ้ล และกรดแลคติก (Lactic Acid) จากนมเปรี้ยว เป็นต้น

            AHA ถูกนำมาใช้คืนความอ่อนเยาว์และบำรุงผิวมายาวนานตั้งแต่อดีต และยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ ประสิทธิภาพการดูแลผิวขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของ AHA ในผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดด้วย ซึ่งกรดไกลโคลิคและกรดแลคติกเป็นชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางมากที่สุด



การทำงานของ AHA

            แสงแดดและกาลเวลาเป็นตัวการสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพเซลล์ผิวหนัง ซึ่ง AHA จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกจากชั้นผิวหนัง และเผยผิวที่มีสุขภาพดีออกมา การใช้ AHA ที่มีความเข้มข้นสูงและใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อชั้นผิวที่อยู่ลึกลงไป ด้วยการกระตุ้นการเกิดใหม่ของคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวนุ่มและริ้วรอยต่าง ๆ ดูลดเลือนลง

            อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลการใช้ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุปริมาณ AHA อย่างชัดเจน โดยการใช้ AHA ที่มีความเข้มข้นสูง ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ



AHA ช่วยลดเลือนริ้วรอย ชะลอความชราบนใบหน้า

            คอลลาเจน คือ โปรตีนที่ช่วยสร้างและซ่อมแซมเซลล์ เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้แก่เนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนน้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย ซึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA จะกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้เร็วขึ้น ทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ลดเลือนลง และช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีการศึกษาค้นคว้าถึงประสิทธิภาพของครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA วิตามิน บี3 วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นหลังจากใช้ไปแล้ว 21 วัน โดยไม่เกิดผลข้างเคียงต่อผิว



AHA ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และปรับสมดุลค่าพีเอชให้แก่ผิวครีมฟื้นฟูสภาพผิว AHA Renewal Cream

            ผิวสุขภาพดีควรมีค่ากรดด่างหรือค่าพีเอช (pH) เป็นกรดเล็กน้อย หรืออยู่ระหว่าง 4.5-5.5 ซึ่งเรียกว่าผิวมีค่าพีเอชที่สมดุล ส่วนผิวที่มีค่าพีเอชไม่สมดุลจะมีแนวโน้มเป็นสิวและผิวแห้งได้มากกว่า ซึ่งกรดมาลิกจากแอปเปิ้ล มักถูกนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหรือครีมบำรุง เพื่อช่วยปรับสมดุลค่าพีเอชให้แก่ผิว และอาจมีประสิทธิภาพดีกว่าเมื่อเทียบกับ AHA ชนิดอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น กรดมาลิกยังมีคุณสมบัติรักษาความชื้นได้ดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้อีกด้วย



AHA ช่วยป้องกันสิว และทำให้รอยสิวดูจางลง

            เมื่อมีน้ำมันบนใบหน้ามากเกินไป รวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกต่าง ๆ เข้าไปอุดตันตามรูขุมขน อาจเป็นเหตุทำให้เกิดสิวหัวดำ และหากเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียก็อาจทำให้กลายเป็นสิวอักเสบได้ในที่สุด AHA จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และกำจัดสิ่งอุดตันตามรูขุมขน อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบ กระชับรูขุมขน กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่เรียบเนียนกว่า ทำให้รอยสิวดูจางลง ดีต่อผิวของผู้ที่เป็นสิวง่าย

ที่มา : https://www.pobpad.com (ข้อมูลวันที่ 27 มี.ค. 2563)

หลักการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า

1. ปัจจัยประกอบการพิจารณา 
1.อายุ เพศ 
2. ลักษณะของผิวพรรณ 
3.สภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวัน เช่นทำงานกลางแจ้ง เล่นกีฬา หรือทำงานในห้องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้จะแตกต่างกัน
 4. ประวัติการแพ้เครื่องสำอางที่เคยใช้มาก่อน

 2.หลักการดูแลผิวโดยรวม
 2.1 เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับอายุ เพศ และสภาพผิวของท่าน (ผิวแห้ง ผิวผสม ผิวมัน)  
2.2 หลีกเลี่ยงการขัดหน้าหรือนวดหน้าแรงๆ โดยเฉพาะผู้มีผิวหน้าแห้ง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิว และกำลังรักษาอยู่ เพราะอาจทำให้ผิวแห้งมากขึ้นและกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบ
 2.3 หากท่านกำลังรักษาอาการฝ้าจากผลิตภัณฑ์อื่นอยู่ และต้องการจะเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ของกิฟฟารีน ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์เดิมก่อนสัก 2-4 สัปดาห์ และใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดอย่างเหมาะสม หากมีอาการผิวหน้าคล้ำลง แสดงว่ามีโอกาสจะเกิดอาการ Rebound จากผลิตภัณฑ์เดิมซึ่งท่านควรทำความเข้าใจว่า อาการนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความขาว Whitening Agents และผลิตภัณฑ์สำหรับฝ้า 
 2.4 หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิวขณะรักษา เพระจะทำให้รบกวนการรักษา ทำให้สิวอักเสบลุกลาม มีโอกาสติดเชื้อและรักษายาก และเป็นหลุมสิวได้ 
2.5 หากท่านมีปัญหาพร้อมๆ กันทั้งสิวและฝ้า และมีสิวจำนวนมาก ให้ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวก่อน ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ชุดบำรุงผิวและผลิตภัณฑ์กันแดด จนกว่าสิวจะหาย เมื่อสิวหายแล้วจึงใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับฝ้า
 2.6 หากท่านมีผิวหน้าเป็นลักษณะผสม หลักการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มีแนวทางดังนี้ – บริเวณรอบดวงตา แก้มด้านใกล้ใบหู ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้ง -บริเวณหน้าผาก จมูก คาง และแก้มบริเวณใกล้จมูก ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมัน แต่ถ้ามีร่วมด้วยให้ถือเป็นผิวมัน 

3. การเลือผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว
 3.1 ผิวมัน 
 ลักษณะผิว – ความมันวาวทั่วใบหน้า 
                    – รูขุมขนแลดูกว้าง
                    – เกิดสิวได้ง่าย  
เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ควรเลือกใช้ – ซีรั่ม 
                                              – โลชั่น
                                              – เจล
 3.2 ผิวผสม 
 ลักษณะผิว – มีความมันวาวที่หน้าผาก จมูก คางและอาจเป็นบริเวณกว้าง ไปถึงแก้มข้างจมูก
                    – รูขุมขนแลดูกว้าง  
เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ควรเลือกใช้ – ซีรั่ม โลชั่น เจล บริเวณที่มัน 
                                             – ครีม บริเวณที่แห้ง 
 3.3 ผิวแห้ง 
 ลักษณะผิว – มีความมันวาวเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย 
                   – รูขุมขนดูเล็กหรือมองไม่เห็นรูขุมขน 
                   – ผิวขาดความชุ่มชื่น แห้งกร้าน 
 เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ควรเลือกใช้ – โลชั่น 
                                               – ครีม 
 3.4 ผิวมัน ผสม แต่ขาดความชุ่มชื่น (Dehydrated Skin) 
 ลักษณะผิว – ผิวมีความมันวาว 
                   – รูขุมขนแลดูกว้าง 
                   – ผิวดูกร้าน ขาดความชุ่มชื่น อาจลอกเป็นขุย  
เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ควรเลือกใช้ – เจลที่มอบความชุ่มชื่นสูง 
                                             – โลชั่น

สนใจ สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าได้ส่วนลด สมัครครั้งเดียวตลอดชีพ  คลิ๊กที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
https://www.facebook.com/Somjai147 หรือที่  https://www.anattara.com/?=16127

ลูทีน ซีแซนทีน ในผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม แอลซีวิท 3x

แนะนำผลิตภัณฑ์วิตามินอาหารเสริม แอลซีวิท 3 เอ็กซ์ (LZVIT 3x) บำรุงดวงตา ประกอบด้วย ลูทีน ซีแซนทีน วิตามินอี แอสต้าแซนทีน สนใจติดต่อ คุณหมวย...